TK park: หนังสือ + ดนตรี + กิจกรรม + มัลติมีเดีย = จินตนาการไม่สิ้นสุด
จากความเชื่อว่าห้องสมุดไม่ใช่เป็นเพียงสถานที่เก็บหนังสือเท่านั้น “อุทยานการเรียนรู้ TK park” จึงถูกสร้างสรรค์ออกมาเพื่อเป็นพื้นที่ในการเรียนรู้ กระตุ้นจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงส่งเสริมกิจกรรมเพื่อปลูกฝังเยาวชนอย่างต่อเนื่อง เพราะเยาวชนเป็นเหมือนเมล็ดพันธุ์ที่ต้องได้รับการบ่มเพาะด้วยแดด น้ำ ดิน ปุ๋ย และอุณหภูมิที่พอเหมาะกับชนิดของพืชพันธุ์ จึงจะเติบโตเป็นไม้ใหญ่ที่สมบูรณ์ แข็งแรง และพร้อมเพาะเมล็ดพันธุ์ต่อไป
หลายปีที่ผ่านมา TK park ได้บ่มเพาะเยาวชนหลายรุ่นให้เติบโตเป็นมืออาชีพในวงการ จนมาถึงปีนี้ทาง TK park ก็ยังคงสานต่อโครงการเหล่านี้ พร้อมทั้งจัดงานเพื่อแสดงผลงานของเยาวชนที่ได้รับการบ่มเพาะแล้ว ในชื่อ
“TK แจ้งเกิดเปิดสวิตช์ 2013” อวดผลงานจากโครงการที่เปิดโอกาสให้เยาวชนอายุ 18-25 ปี ที่มีความสนใจใน 4 สาขาอาชีพ ได้แก่ นักเขียน (TK Young Writer) ดนตรี (TK band) กราฟิกแอนด์มัลติมีเดีย (TK Graphic & Multimedia) และ การตลาด (TK Marketer) เข้าร่วมอบรมบ่มเพาะ เพื่อเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ความฝันให้ไปสู่การเป็นต้นกล้าที่แข็งแรง พร้อมโตเป็นไม้ใหญ่อย่างมืออาชีพ
ซึ่งนอกจากจะรวมผลงานหลากไอเดียที่จะมาเปิดสวิตช์ความคิดให้เจิดจ้าแล้ว ยังมีกิจกรรมและการเสวนาสนุกๆ จากพี่ๆ มืออาชีพอีกมากมาย ที่จะมาช่วยเปิดสวิตช์ไอเดียให้สว่างไสว โดยจัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 19 และวันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2556 บริเวณลานสานฝัน อุทยานการเรียนรู้ TK park

ผลงานของเยาวชน TK Young Writer รุ่น 5
Switch ON !!! แจ้งเกิดเปิดสวิตซ์
TK Young Writer แจ้งเกิดนักเขียน
“หนังสือทำให้พวกเขามาเจอกัน” TK Young Writer เวทีสานฝันเยาวชนที่มีใจรักด้านงานเขียน จากนักเขียนหน้าใหม่สู่เส้นทางของนักเขียนมืออาชีพ โครงการเยาวชนที่จัดต่อเนื่องมายาวนานที่สุด และได้ผลิตนักเขียนคุณภาพเข้าสู่วงการมากมาย โดยปีนี้ได้จัดขึ้นเป็นปีที่ 5 ภายใต้โจทย์ท้าทายผสมกลิ่นอายแฟชั่น “เดินแบบนักเขียน” เยาวชนจะได้รับการฝึกอบรมงานเขียนและทำนิตยสาร โดยมีพี่ๆ นักเขียนและบรรณาธิการมืออาชีพอย่าง พี่ต๊ะ-จักรพันธุ์ ขวัญมงคล, พี่วิภว์ บูรพาเดชะ, พี่ก้อง-ทรงกลด บางยี่ขัน มาเป็นที่ปรึกษาและถ่ายทอดประสบการณ์ จนเกิดเป็นผลงาน “นิตยสารออนไลน์” ของเยาวชนทั้ง 3 เล่ม ได้แก่ “คนสวน” “หาย” และ“STAND” และยังมีหนังสือ
“The Hits” ที่รวมไฮไลต์จากทั้ง 3 เล่ม ที่น้องๆ นำมาขายในงานนี้
น้องเฟส-ปาริฉัตร แทนบุญ และ น้องดี-ธีรภัทร์ เจนใจ TK Young Writer รุ่น 5 ซึ่งได้มีส่วนร่วมทำนิตยสารออนไลน์ “หาย” ที่มีทีมกองบรรณาธิการนิตยสาร Way มาเป็นบรรณาธิการที่ปรึกษา ต่างรู้สึกว่าการทำนิตยสารทำให้เขามีประสบการณ์มากกว่าในห้องเรียน
น้องเฟสเล่าให้ฟังว่า “เป็นคนที่ชอบเขียนอยู่แล้วค่ะ เลยมาเข้าร่วมโครงการ มีพี่ๆ ที่เราชื่นชอบอย่างพี่ต๊ะ พี่ก้อง มาเป็นคนที่อบรมด้านการเขียน จากนั้นก็มีการแบ่งกลุ่มทำนิตยสารกัน เฟสได้ทำคอลัมน์ส่วนสัมภาษณ์ อย่าง แอดมินเพจเฟชบุ๊ค คนขับรถเก็บขยะ ก็ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ มาเยอะ เพราะต้องหาข้อมูล ลงพื้นที่และเขียนให้ออกมาเป็นคอลัมน์ที่น่าสนใจ”
นอกจากนี้น้องๆ ในโครงการ TK Young Writer ยังได้ต่อยอดการเรียนรู้จากการทำนิตยสารออนไลน์ “Read Me” ของอุทยานการเรียนรู้ TK park ทำให้ได้ฝึกวิชาจากบรรณาธิการมืออาชีพแล้ว และยังได้ร่วมทำงานกับรุ่นพี่ทั้ง 4 ปีเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์งานเขียนร่วมกัน

เยาวชน TK Band รุ่น 2 และ 4 นำผลงานมาขายในงานนี้ด้วย
TK Band แจ้งเกิดเยาวชนคนดนตรี
“ดนตรีทำให้พวกเขามารวมตัวกัน” TK Band เวทีที่เปิดโอกาสให้เยาวชนผู้รักเสียงเพลง เข้ามาเรียนรู้กระบวนการสร้างสรรค์งานดนตรีอย่างครบรส เพื่อสร้างสรรค์ผลงานสู่คนดนตรีคุณภาพ โดยจุดประกายความคิดสร้างสรรค์การแต่งเพลง ดนตรี การจัดการแสดงในมุมมองของตัวเอง ซึ่งจัดขึ้นมาเป็นปีที่ 4 แล้ว ในปีนี้เยาวชน TK Band ได้ฝึกฝนงานดนตรีผ่านกระบวนการเรียนรู้จากศิลปินและนักแต่งเพลงมืออาชีพ เช่น พี่จุ้ย – ศุ บุญเลี้ยง,
พี่โกไข่ - จุมพล ทองตัน, พี่ทิวา สาระจูฑะ มาเติมเต็มประสบการณ์ให้เยาวชนของตนเอง สู่การต่อยอดพัฒนาฝีมือ จนมีผลงานจากฝีมือการสร้างสรรค์ของตนเองออกสู่สาธารณชนเป็นอัลบั้ม “ร่วมสมัย” ที่มีบทเพลงเพราะๆ ทำนองย้อนยุค ชื่อเพลงน่าสนใจอย่างเพลง “ระลึกชาติ” “ขอบคุณที่รับแอ๊ด” “ยีนส์”
น้องอองฟอง TK Band รุ่น 2 น้องจูน และ น้องมีน TK Band รุ่น 4 ได้เล่าถึงประสบการณ์การอบรมที่มีรูปแบบใกล้เคียงกัน ว่า น้องๆ จะได้ฝึกฝนทุกอย่างที่เกี่ยวกับดนตรี ทั้งร้องเพลง เล่นดนตรี แต่งเพลง เพื่อหาความถนัดของตัวเองที่อาจซ่อนอยู่ และได้เรียนรู้พื้นฐานด้านดนตรีที่หลากหลาย ซึ่งสิ่งที่น้องๆ ชอบมากที่สุดคือการออกค่ายนอกสถานที่ โดย TK Band รุ่น 2 ได้ไปที่วิกหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ส่วน TK Band รุ่น 4 เปลี่ยนไปสร้างแรงบันดาลใจกับพี่เป้ สีน้ำ ที่โรงเรียนธรรมชาติบ้านริมน้ำ จ.นครปฐม
“ที่หัวหินพี่จุ้ยสอนให้เราฝึกการร้องเพลง ลองเล่นเครื่องดนตรีหลายๆ อย่าง แล้วก็หัดแต่งเพลง คือให้ไปเดินตลาดหัวหิน แล้วหาแรงบันดาลใจมาแต่งเป็นเพลงซึ่งทำให้หนูรู้ว่า หนูถนัดการแต่งเพลงมากที่สุด” น้องอองฟองเล่าถึงการออกค่ายเมื่อสองปีที่แล้ว ส่วนน้องจูนได้เล่าเสริมถึงการออกค่ายในปีนี้ว่า “ปีนี้ได้ไปที่โรงเรียนครูเป้ สีน้ำ ค่ะ คือเอาการวาดรูปมาสร้างแรงบันดาลใจในการแต่งเพลง ร้องเพลง เพราะศิลปะจะเชื่อมโยงกันได้ ภาพที่เราวาดจะดึงสิ่งที่อยู่ในใจเราออกมา”
ในวันนี้พวกเขาได้นำผลงานเพลงทั้ง 4 อัลบั้ม ที่มาจากการแต่ง ร้อง เล่นดนตรี ของน้องๆ TK Band ในแต่ละปี คือ “สิ่งที่ถูกมองข้าม” “คิดบวก” “แชร์” และ “ร่วมสมัย” ที่มีเนื้อหามากกว่าเรื่องรักของหนุ่มสาวมาขายในงานนี้ด้วย

ผลงานการออกแบบผลิตภัณฑ์ “ยาดมจันดารานาสิก”
TK Graphic & Multimedia แจ้งเกิดด้านกราฟิกและมัลติมีเดีย
“เพราะพวกเขาเป็นคนมีไอเดียเลยได้มาเจอกัน” เวที TK Graphic & Multimedia จัดขึ้นเป็นปีแรก เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนผู้มีไอเดียได้เข้าร่วมโครงการ “รวมพลังสร้างคน รวมพลสร้างโอทอป” โดยมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ เช่น คุณนีรวรรณ รัตนวิจารณ์ จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ดร. ชลฤทธิ์
เหลืองจินดา จาก มหาวิทยาลัยศิลปากร มาเสริมความรู้ด้านการตลาด เทคนิคและวิธีการออกแบบบรรจุภัณฑ์ ซึ่งจะให้น้องๆ แต่ละกลุ่มได้ทำงานร่วมกับเจ้าของผลิตภัณฑ์ชุมชน โอทอป ที่แตกต่างกันไป เพื่อพัฒนาและออกแบบบรรจุภัณฑ์ เช่น “กลุ่มเช้าฟาดผัดฟัก เย็นฟาดฟักผัด” จับคู่กับผลิตภัณฑ์ “ยาดมจันดารานาสิก” กลุ่ม “ลุงมี” จับคู่กับผลิตภัณฑ์ “ยาสีฟัน ควิก สเต็ป” กลุ่ม “คาเฟย” จับคู่กับผลิตภัณฑ์ “กาแฟหอมละมุน” โดยมีเป้าหมายเพื่อใช้การออกแบบในการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ให้มีความน่าสนใจ รวมถึงสะท้อนแนวคิดและคุณค่าของผลิตภัณฑ์
น้องโพลี และน้องนิว กลุ่ม คาเฟยเล่าถึงเส้นทางการอบรมและออกแบบผลิตภัณฑ์ จนออกมาเป็นห่อกาแฟหอมละมุนที่ดูทันสมัยว่า จะต้องพูดคุยกับเจ้าของผลิตภัณฑ์เพื่อเข้าใจความเป็นมาและความต้องการของ เจ้าของ ก่อนออกแบบผลิตภัณฑ์แบบใหม่ โดยมีวิทยากรที่ทำการอบรมเป็นผู้แนะนำการออกแบบในแต่ละขั้นตอน
น้องนิวเป็นตัวแทนกลุ่มเล่าให้ฟังว่า “ก่อนจะออกแบบเราต้องหาข้อมูลกันเยอะมาก คือต้องรู้ข้อมูลเกี่ยวกับกาแฟด้วย และจะต้องไปคุยกับเจ้าของกาแฟ ว่าเขามีความคิดแบบไหน เพื่อที่จะออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความน่าสนใจ สวยงาม เจ้าของมีความสุข และไม่ทิ้งความเป็นกาแฟในแบบของเขา ก็มีการแก้ไขกันอยู่สองสามรอบค่ะ คือจะมีพี่ๆ ที่มาอบรมช่วยให้คำแนะนำด้วยตลอด”
โดยงานแจ้งเกิดครั้งนี้ น้องๆ แต่ละกลุ่มได้นำผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาอวดโฉมให้เห็นไอเดียบรรเจิดกันด้วย

น้องผึ้งและน้องมาลี นำผลงานเสื้อยืดกลุ่ม ZL มาวางขาย
TK Marketer เวทีแจ้งเกิดการตลาด
“พวกเขามีความคิดสร้างสรรค์และมาเจอกันเพื่อวางกลยุทธ์” TK Marketer เปิดโอกาสให้เยาวชนได้มา
เวิร์กช็อป เพื่อเพิ่มกลยุทธ์การตลาดกับวิทยากรตัวจริงของวงการ พร้อมกับทุนพัฒนาผลิตภัณฑ์และทุนด้านการตลาด รวมทั้งได้เจาะข้อมูลการตลาด ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 3 แล้ว โดยปีนี้เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการจะได้สร้างสรรค์แต่งแต้ม
ไอเดียใหม่ๆ ในวงการแฟชั่นไทย ด้วยการออกแบบเสื้อยืดร่วมกับกราฟิกดีไซเนอร์มืออาชีพ ซึ่งทีมที่มีผลงานโดดเด่นจะได้ฝึกงานกับแบรนด์แฟชั่นชั้นนำ Flynow
น้องๆ แต่ละกลุ่มมีความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบลายเสื้อผ้าที่แตกต่างกันออกไป เช่น กลุ่ม “ลิงยักษ์” ได้นำตัวละครหนุมานในวรรณคดีไทยเรื่องรามเกียรติ์ มาออกแบบลายลิงที่มีความเป็นไทย หรือกลุ่ม “ZL” ที่ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบลายจากวิถีการใช้ชีวิตของชนเผ่าซูลู ทวีปแอฟริกา มาออกแบบลายเสื้อที่มีรูปแบบเท่และสีสันสวยงาม
น้องแม็ค น้องมาลี และน้องผึ้ง จากกลุ่ม ZL เป็นเยาวชนอีกกลุ่มที่สนใจเรื่องการออกแบบและการตลาด โดยน้องแม็คเป็นตัวแทนเพื่อนๆ เล่าให้ฟังถึงแรงบันดาลใจและการทำงานครั้งนี้ว่า
“เราสนใจศิลปะของชนเผ่าซูลูมาก คือเขาจะมีศิลปะอยู่ในทุกอย่าง ทั้งชุดที่เขาใส่ เครื่องใช้ หรือแม้แต่อาวุธ จะมีทั้งลวดลายวงกลม สี่เหลี่ยม รูปแบบแปลกๆ แต่สวย เราเลยเอาตรงนั้นมาทำเป็นลวดลายเสื้อ ให้ดูโดดเด่น แตกต่างจากเสื้อยืดทั่วๆ ไป และพี่ๆ ที่โครงการจะมาช่วยแนะนำการออกแบบ และให้ความรู้ด้านการตลาดด้วยว่าจะต้องทำยังไงถึงจะถูกใจกลุ่มลูกค้า เพราะเราจะเอาความคิดของเราอย่างเดียวไม่ได้ ต้องคิดถึงเรื่องตลาด และคนที่จะซื้อเสื้อนี้ไปใส่ด้วย”
หากใครมาร่วมงานนี้ จะเห็นเสื้อยืดลวดลายแปลกตามากมาย จากผลงานของพวกเขามาแสดงให้ได้ชมกัน
นอกจากการแสดงผลงานของเหล่าเยาวชนทั้ง 4 โครงการแล้ว ในงานแจ้งเกิดครั้งนี้ยังมีได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับน้องๆ ด้วยงานเสวนา เพื่อให้พี่ๆ มืออาชีพมาแบ่งปันประสบการณ์การทำงานจริง ใน หัวข้อ “แจ้งเกิดแบรนด์ด้วยภาพและภาพพจน์” เป็นการปูพื้นฐานงานออกแบบของโครงการ TK Graphic & Multimedia ส่วนเสวนา หัวข้อ “แจ้งเกิดอย่างไรให้ชนะใจบรรณาธิการ” เป็นการเสนอแนะแนวทางการเขียนงานของโครงการ TK Young Writer

พี่บี๋ อ.บุญเลิศ พี่อาร์ท ร่วมแบ่งปันการแจ้งเกิดแบรนด์ด้วยภาพ
TK Graphic & Multimedia: แจ้งเกิดแบรนด์ด้วยภาพและภาพพจน์
เมื่อ “ภาพ” เป็นมากกว่าสิ่งที่สัมผัสด้วยตา และเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จในงานออกแบบ พี่อาร์ท – สุรัติ โตมรศักดิ์เจ้าของแบรนด์ Try2beNice, พี่บี๋-ปรารถนา จริยวิลาศกุล นักวางกลยุทธ์แบรนด์ เอเจนซี่ NudeJeh และ อ.บุญเลิศ กระบวนแสงเจ้าของโรงเรียนบุญเลิศลีลาศ จึงได้แนะนำการแจ้งเกิดแบรนด์ด้วยภาพและภาพพจน์ เพื่อให้น้องๆ ที่รักการออกแบบได้เรียนรู้ก่อนเริ่มต้นสร้างแบรนด์
เริ่มต้นจากพี่อาร์ท ที่อธิบายความหมายของภาพและภาพพจน์ให้เข้าใจว่า “ภาพ” คือการสื่อความหมาย ณ วินาทีนั้นต่อผู้บริโภค เป็นสิ่งที่มองเห็นได้ ส่วน “ภาพพจน์” เป็นสิ่งที่สร้างให้เป็นความหมายหลังภาพนั้น
“ภาพพจน์ในความหมายของแบรนด์คือ ‘ภาพลักษณ์’ เป็นสิ่งที่อยู่ในความคิดของแต่ละคนเมื่อมองเห็นแบรนด์ เช่น เมื่อเห็น
โล โก้ หรือเห็นแค่สี ก็จะนึกถึงเชื่อมโยงได้ว่าคือแบรนด์อะไร ภาพลักษณ์มีความซับซ้อนกว่า มีเรื่องราวในนั้น และสร้างได้ยาก แต่เมื่อสร้างได้จะอยู่อย่างคงทน ซึ่งสำคัญมากต่อการสร้างแบรนด์”
เมื่อเข้าใจความหมายและความสำคัญของภาพแล้ว พี่บี๋ได้อธิบายวิธีการแจ้งเกิดด้วยภาพและภาพพจน์ว่า จะต้องสร้างอัตลักษณ์ (Identity) ให้กับสินค้านั้นๆ เช่น หาจุดต่างจากผลิตภัณฑ์ชนิดเดียวกัน เพื่อให้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ด้วยการเป็นคนแรกและเป็นตัวจริง คือเริ่มทำก่อนและทำออกมาให้ดีมีคุณภาพ
“หากเป็นสิ่งที่คนอื่นเคยทำแล้วอย่าไปทำซ้ำ เพราะมันจะเหมือนๆ กันไปหมด ผู้บริโภคก็จำไม่ได้ เพราะเราเป็นแบรนด์ที่มาทีหลัง เพราะฉะนั้นเราจะต้องสร้างภาพลักษณ์ให้เกิดขึ้นในใจคน ทำสินค้าที่มีคุณภาพ สร้างโลโก้ให้น่าจดจำ ออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ไม่เหมือนใคร คนจะจำได้ กลายเป็นลายเซ็นของเรา”
โดย อ.บุญเลิศ กระบวนแสง ได้มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ของการสร้างแบรนด์โรงเรียนบุญเลิศลีลาศว่า ความสำเร็จเกิดจากการเป็นคนแรก คือเป็นโรงเรียนลีลาศแห่งแรก และเพิ่มความโดดเด่นด้วยการสอนในสิ่งที่ต่างออกไป
“เพราะโรงเรียนเราสร้างขึ้นก่อน คนเลยรู้จักและพูดปากต่อปาก เมื่อพูดถึงลีลาศก็ต้องนึกถึงโรงเรียนของผม ส่วนความแตกต่างที่สร้างขึ้น ก็คือโรงเรียนเราก็เจาะกลุ่มเยาวชนด้วย เพราะแต่ก่อนคนเต้นลีลาศจะเป็นผู้ใหญ่ แต่เราให้เริ่มแต่เด็กโดยจัดการแข่งขัน เด็กๆ ก็มาสนใจเรียนมากขึ้น”
ในช่วงท้ายพี่อาร์ทได้สรุปเคล็ดลับการสร้างแบรนด์แบบสั้นๆ จำง่ายๆ ว่า
“มองแบรนด์ให้มีชีวิต สร้างด้วยไอเดีย และเติบโตด้วยความรัก”

พี่อ๋อง พี่บิ๊ก เผยเคล็ดลับชนะใจบรรณาธิการ
TK Young Writer: แจ้งเกิดอย่างไรให้ชนะใจบรรณาธิการ
ชนะอะไรก็ไม่เท่าชนะใจบรรณาธิการ เพราะนั่นแปลว่าเราได้แจ้งเกิดแล้ว ดังนั้นนักเขียนหน้าใหม่จึงต้องมารู้เคล็ดลับเพื่อเปิดโอกาสให้ผลงานออกสู่ ผู้อ่านกลุ่มใหญ่ โดยงานเสวนานี้ได้บรรณาธิการชื่อดังอย่าง พี่บิ๊ก-ภูมิชาย บุญสินสุข บรรณาธิการสำนักพิมพ์อะบุ๊ก และพี่อ๋อง – วุฒิชัย กฤษณะประกรกิจ บรรณาธิการนิตยสาร GM โดยได้ผู้ดำเนินการเสวนาที่เป็นบรรณาธิการ คือพี่วิภว์ บูรพาเดชะ จาก happening และน้องปิง - กิตติดิษฐ์ ธนดิษฐ์สุวรรณ เยาวชนในโครงการ TK Young Writer 2013 มาร่วมพูดคุยซักถาม
พี่บิ๊กและพี่อ๋อง มีความเห็นเหมือนกันว่า การจะเอาชนะใจบรรณาธิการได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีการแข่งขันสูง เมื่อใครๆ ก็อยากได้พื้นที่ให้ผลงานได้แจ้งเกิดในวงการ ดังนั้นจะชนะใจบรรณาธิการได้จะต้องทำงานเขียนของตัวเองให้ “เจ๋ง” เป็นงานที่มีความน่าสนใจ อาจจะคิดในมุมต่าง แต่ต้องเป็นความต่างที่ดึงดูด จึงจะทำให้บรรณาธิการหยิบงานนั้นขึ้นมาพิจารณา
แต่ถ้าวิธีการที่ว่ายังดูยากเกินไปหรือยังไม่มั่นใจว่าจะชนะได้เพราะใครๆ ก็ทำกัน พี่บิ๊กและพี่อ๋อง มีเคล็ดลับการแจ้งเกิดของตัวเองมาเปิดเผย
พี่บิ๊กเล่าว่าพื้นฐานด้านการอ่านสำคัญ อ่านมากก็อยากเขียน เขียนมากๆ ฝีมือก็จะพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ พอมีงานสะสมไว้มากพอที่จะแจ้งเกิดแล้ว ส่งงานไปอย่างเดียวถ้ายังไม่ได้สัญญาณตอบกลับ ก็ต้องแสดงความพยายามให้เห็น
“พี่ว่าเราต้องสร้างโอกาสให้ตัวเองนะ และรับโอกาสด้วยเพราะมันจะสร้างโอกาสต่อไปให้เกิดขึ้นอีก ตอนเริ่มเขียนจะเป็นเล่มเลย มันใหญ่ไป พี่ก็เขียนเป็นคอลัมน์ส่งนิตยสาร เข้าหาคนในวงการอย่างพี่เคยโทร.หาพี่จิก พี่โหน่ง พี่ก็เคยโทร.ไปว่าเราอยากทำอะไร ดูผลงานเราก่อนไหม พอได้โอกาสก็ทำให้ดี ถ้าเขาให้เราทำอะไรเราทำไปก่อนเลย แล้วมันจะมีโอกาสให้เราเติบโตไปทำงานที่เราอยากทำ”
ส่วนเคล็ดลับของพี่อ๋องนั้นเหมือนกับพี่บิ๊ก คือการสร้างโอกาสให้ตัวเอง โดยการเขียนงานให้แบบไม่ขอค่าตอบแทน
“ถ้างานได้เงินใช้เวลา ระหว่างรอก็สั่งสมประสบการณ์เขียนและทำให้ตัวเองเป็นที่รู้จักก่อน ไปเสนอตัวเลยว่าขอเขียนบทความส่งให้แบบไม่คิดค่าเขียน พี่ก็ใช้วิธีนี้แหละเขียนฟรีไปก่อน ให้เราได้มีพื้นที่เผยแพร่และเราจะรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า จากนั้นโอกาสจะมาหาเรา”

มินิคอนเสิร์ตจากต้า พาราด็อกซ์ กับเยาวชนคนดนตรี TK Band
เพราะความเก่งอย่างเดียวยังไม่พอ แต่ต้องมีความพยายามและหาโอกาสด้วย ดังนั้น งาน TK แจ้งเกิดจึงได้ทำการเปิดแฟ้มรับพอร์ตงาน (Portfolio) ในกิจกรรม “TK แจ้งเกิด เปิดแฟ้ม” โดย เปิดโอกาสให้น้องๆ และบุคคลทั่วไปนำพอร์ตงาน ของตัวเอง มาให้พี่ๆ ได้ดูผลงานและได้แนะนำการทำพอร์ตเวลาสมัครงานจริง โดยพี่ๆ ที่มานั้นเป็นตัวแทนจากองค์กรชื่อดังหลากหลายวงการ ได้แก่“Practical” กราฟิกเฮาส์ชื่อดัง เจ้าของผลงานออกแบบมากมาย, “happening” นิตยสารศิลปะบันเทิงไทย ที่มีแนวทางเฉพาะตัว,“DA+PP” แบรนด์เสื้อผ้าสุดเท่, “Smallroom” ค่ายเพลงที่มีแนวทางของตัวเองมากว่าทศวรรษ และ “บ.ชูใจกะกัลยาณมิตร”ครีเอทีฟเอเจนซี่ โดยกิจกรรมแจ้งเกิด เปิดแฟ้ม มีตั้งแต่เวลา 15.00-18.00 น. ที่ห้องมินิเธียเตอร์ 2
นอกจากงานเสวนาและการนำเสนอผลงานของน้องๆ เยาวชน ที่ทำให้เห็นถึงกิ่ง-ก้าน-ใบ ของเมล็ดพันธุ์เมื่อครั้งก่อนแล้ว งานนี้ยังปิดท้ายด้วยมินิคอนเสิร์ต ของต้า พาราด็อกซ์ ร่วมกับวงดนตรีของ TK Band ที่เล่นได้อย่างเข้าขาและสุดมัน
บทสรุปของโครงการ TK แจ้งเกิดทั้ง 4 สาขา ไม่ได้มีเพียงแค่ “พื้นที่และโอกาส” ให้เยาวชนได้แสดงความคิดสร้างสรรค์เท่านั้น แต่ยังเป็นการ “ต่อยอด เชื่อมโยง” การทำงานร่วมกันจากรุ่นพี่สู่รุ่นน้อง จากวิทยากรมืออาชีพสู่เยาวชนหน้าใหม่ ซึ่งไม่ได้วัดผลความสำเร็จของโครงการในแง่ “ปริมาณ” แต่ความสำเร็จที่ได้จากโครงการแจ้งเกิด นั่นคือความฝันของเยาวชนที่ TK park ได้สานฝันให้เป็นรูปธรรม เพื่อให้ได้เมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพ สู่ต้นกล้าที่แข็งแกร่งและร่วมกันสร้างสรรค์พัฒนาสังคมต่อไปในอนาคต
พี่ตองก้า